ชื่อบ้านโสมส่องแสงมีที่มาจากบทเพลง “โสมส่องแสง” ที่ท่านประพันธ์ขึ้น รอบๆ บ้านเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีแสงแดดส่องรำไร เสียงดนตรีไทยที่ได้ยินเบาๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย ทั้งเชื้อเชิญให้เราก้าวเดินเข้าสู่บ้านซึ่งจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวบ้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ภายนอกเป็นสีของเนื้อไม้ โดยมีประตูหน้าต่างทาสีขาว ส่วนภายในบ้านชั้นบนนั้นทาสีขาว จัดวางของใช้ของท่านไว้ทั้งในห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ไปจนถึงห้องพระ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศของบ้านหลังนี้ครั้งที่ครูมนตรียังมีชีวิตอยู่ ชั้นล่างเป็นห้องเล็กๆ จัดแสดงนิทรรศการผลงานการประพันธ์เพลงฉบับจริงที่ครูเขียนขึ้นมากมายหลายเพลง รวมทั้งโต๊ะทำงานของท่านด้วย
ที่นี่ยังเปิดสอนดนตรีไทยให้คนทุกวัย บางวันจึงมีลูกศิษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มานั่งต่อเพลงอยู่ไม่ขาดสาย ผู้ปกครองบางคนมานั่งรอลูกเรียนแล้วอยากฟื้นความหลัง ก็ขอเรียนไปพร้อมกับลูกด้วย
บ้านโสมส่องแสง หรือพิพิธภัณฑ์บ้านครูมนตรี ตราโมท นับเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผู้ที่รักและชื่นชอบดนตรีไทยน่าแวะมาเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง